1. เสิร์ชหาความน่าเชื่อถือจาก Google
ก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถสักคัน การหาข้อมูลของรุ่นรถก็มีความจำเป็น เพราะรถบ้างรุ่นก็มีปัญหาเยอะเสียเหลือเกิน
แต่พอไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็จะเกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเกิดจากการใช้งานของเจ้าของรถคนก่อน
อย่างนี้ไม่ถูกต้องนะคะ ทางที่ดีควรเสิร์ชหาข้อมูล ข้อดี-ข้อเสีย และปัญหาของรถยนต์รุ่นที่ต้องการจะซื้อก่อนที่จะติดต่อซื้อขาย
2. ตรวจเช็คสภาพรถยนต์
ตรวจเช็คสภาพของรถยนต์ทั้งคันไม่ว่าจะเป็นเข็มไมล์ สภาพตัวถัง ยาง และเบาะนั่ง
แม้ว่ารถบางคันจะระบุเข็มไมล์มาแล้วว่าวิ่งไปไกลเท่าไหร่ แต่บางครั้งระยะทางก็ดูเหมือนไม่ค่อยสัมพันธ์กับปีของรถยนต์ที่ซื้อมาเท่าไหร่
อย่าวางใจค่ะ เพราะอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ที่มีการตั้งเข็มไมล์ใหม่เพื่อให้สามารถขายได้ราคาดีขึ้น
เนื่องจากวิ่งระยะทางน้อยค่ะ นอกจากเข็มไมล์แล้วควรตรวจสอบเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยว่ามีสภาพการใช้งานมานานขนาดไหน
เช็คขอบประตู และดอกยางว่าสึกหมดหรือยัง เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้เป็นสัญญาณของรถที่ใช้งานมาเยอะพอสมควรค่ะ
3. ตรวจเช็คเครื่องยนต์
ตรวจเช็คสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า โดยการลองสตาร์ทรถยนต์ และฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะเร่งด้วยความเร็วสูง
เป็นการตรวจเช็คสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า โดยการลองสตาร์ทเครื่องว่าติดง่ายหรือไม่
เครื่องยนต์เดินสะดวกไม่มีอาการสะดุดหรือเปล่า และลองฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะเร่งด้วยความแรงสูงสุด
และต่ำสุดว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ เช็คการรั่วของอุปกรณ์ภายในห้องเครื่อง โดยการตรวจเช็คนี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ไปด้วย
เพื่อที่จะเห็นรายละเอียดของการใช้งานรถยนต์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
4.เช็คสภาพห้องเครื่องว่าเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่
การเช็คสภาพห้องเครื่องเป็นการตรวจเช็คว่าภายในห้องเครื่องเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก
หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่ โดยไม่ใช่เช็คแค่อุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบท่อ
และสายพานว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า
และอย่าลืมเปิดฝาน้ำมันเพื่อสังเกตว่ามีสารตกค้างเป็นฟองสีขาวเนื่องจากเคยเกิดการรั่วมาก่อนหรือเปล่า
เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องอาจเกิดปัญหาจากการดูแลรักษาที่ไม่ดีพอ
5. หลีกเลี่ยงการซื้อรถจากต่างถิ่น
หลีกเลี่ยงการซื้อรถยนต์ที่อาจมีการนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
หากพบว่าเป็นรถมือสองที่นำเข้ามา และขายในราคาที่ถูกมากๆ ให้ตั้งข้อสังเกตว่ารถคันนี้อาจเป็นรถที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
หรือเป็นรถที่ย้อมแมวขายเพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายบางอย่าง ดังนั้นหากมีการแจ้งรายละเอียดว่าเป็นรถยนต์นำเข้าอย่าดีใจ
แต่ต้องเช็คให้ละเอียดมากกว่าปกติเลยทีเดียว แต่ทางที่ดีถ้าหากว่าไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญทราจะช่วยตรวจเช็คสภาพรถ
ก็ควรหลีกเลี่ยงการซื้อรถประเภทนี้ดีกว่า ไม่เช่นนั้นคุณอาจทำผิดกฎหมายได้โดยไม่รู้ตัว
6. ทดลองขับ
ทดลองนำรถออกไปขับ เพื่อทดสอบสมรรถนะการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ-ขาย
หลังจากที่ตรวจสอบสภาพรถต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์
ควรทดลองขับรถเพื่อเชคสภาพรถยนต์ครั้งสุดท้ายว่ามีอะไรที่ผิดปกติจากการขับหรือเปล่า
เพื่อทดสอบระบบเบรก ระบบไฟ ศูนย์ถ่วงของรถ ตัวอย่างเช่น การหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาให้สุด
เพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะแล่น การตรวจสอบระบบเบรก ว่าเมื่อเหยียบเบรกแล้วมีอาการสั่นไหม
หรือว่าส่ายไปมาหรือเปล่า
7. ตรวจสอบเอกสารการซื้อขาย ประกัน และ Service Book
เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถยนต์มือสองคันนี้
การตรวจสอบเอกสารควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสัญญาซื้อขาย เลขทะเบียนรถ
รหัสเครื่องยนต์ว่าตรงตามของจริงหรือเปล่า ตรวจสอบกับประกันว่ารถยนต์คันนี้มีการชำระค่าเบี้ยครบหรือไม่
และ Service Book ว่าที่ผ่านมารถยนต์คันนี้มีการซ่อมบำรุงส่วนไหนไปบ้างแล้ว และหลังจากที่ซื้อขายต้องมีสำเนาบัตรประชาชน
และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขายเก็บไว้ด้วย เพราะหากมีปัญหาเรื่องการซื้อ-ขายตามมาภายหลัง เอกสารเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันความถูกต้องได้ค่ะ
รับซื้อรถยุโรป ทุกยี่ห้อ
รถมือสอง
ซื้อรถมือสอง
รับซื้อรถหรู
รถสปอร์ตมือสอง เต้นรถมือสอง รถบ้านขายเอง ซื้อขายรถบ้าน รับซื้อรถเก๋งมือสอง รับซื้อกระบะมือสอง ซื้อรถมือสอง รถมือสอง ย้ายไฟแนนซ์รถ บริการไปดูรถ ไปซื้อรถถึงบ้าน
ติดต่อรับซื้อขายรถมือสอง


